แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รับถ่ายภาพ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ รับถ่ายภาพ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2554

ว่ากันด้วยเรื่อง Flickr

Flickr เว็บปล่อยของที่นักถ่ายภาพคนไหนไม่รู้จักก็ต้องบอกว่าเช้ยเชย ซึ่งผมเชื่อได้ว่าหลายคนที่เล่นเว็บโชว์ภาพปล่อยของอย่าง multiply อาจเริ่มเบื่อในความไม่พัฒนาไปข้างหน้าของระบบ ทั้งที่ยอม upgrade เสียตังค์ก็แล้วก็ไม่เห็นจะดีอะไรมากมาย จนเริ่มส่ายหัวและมองหาทางเลือกใหม่ๆ เห็นทีที่เข้าล็อกที่สุดก็น่าจะเป็น Flickr ล้วละครับ ด้วยความพัฒนาของระบบและมี PR (Page Rank) ที่สูงมาก(ซึ่งนักทำ SEO แล้วก็ชอบถ่ายรูปทั้งหลายคงไม่มองข้ามมันเป็นแน่) ด้วยความสะดวกของระบบจัดการต่างๆ เอย และถือเป็นสังคมปล่อยของที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งเวลาสมัครก็สามารถสมัครผ่านทาง Yahoo ได้เลยครับ และเป็นธรรมดาที่ที่ไหนมีประชากรรวมตัวกันเยอะ ก็ย่อมมีพวกเมพขิงๆ กันมากมายลองไปเซิร์ชหาดูนะครับ เป็นไอเดียใช้ในการถ่ายภาพและรับถ่ายภาพของเราได้ดีทีเดียว หลายครั้งก่อนที่ผมจะรับถ่ายภาพงานไหนบางทีก็ค้นหาแรงบันดาลใจต่างๆ จากทั้ง Flickr, Multiply เนี่ยแหละครับ แต่มักไปทางอันแรกมากกว่า

และตอนนี้เว็บ Flickr ได้ทำให้เราใช้งานสะดวกขึ้นด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่น การ log in ด้วยชื่อบัญชีของ facebook แล้วครับ โดยเริ่มแรกนั้น คุณต้องเข้าไป log in ที่หน้า Flickr ก่อนเพื่อยืนยันข้อมูลจาก Facebook พร้อมทั้งตั้งค่าการเชื่อมต่อบัญชีเข้าไว้ด้วยกันทั้งสอง website ทาง Yahoo Updates ซึ่งจะแชร์ข่าวสารความเคลื่อนไหวต่างๆ ของคุณจากในฟลิกเกอร์ ไปยัง feed ของ Facebook แบบอัตโนมัติครับ อีกทั้งยังสามารถแสดงรูป profile บน facebook ได้ด้วยครับ ซึ่งรูปแบบการทำงานแบบนี้เชื่อแน่ว่าจะส่งผลให้ Flickr มีอัตราการเข้าเว็บที่สูงขึ้นแน่นอน แต่เสียอย่างเดียวว่าเรายังไม่สามารถอัพโหลดรูปจาก Flickr เข้าในเฟซบุ๊คโดยตรงได้ครับ

หวังว่า Feature ดีๆ จากทางฟลิกเกอร์คงจะมีอะไรพัฒนาแจ่มๆ มาฝากกันอีกนะครับ จะว่าไปหากลูกค้าที่เรารับถ่ายภาพ หรือให้บริการถ่ายภาพยังไม่รู้ว่าจะให้ถ่ายสินค้ามาในแนวไหนบางที Flickr ก็อาจเป็นประโยชน์ให้กับคุณลูกค้าได้เหมือนกันนะครับ เอ๊ะ!หรือเค้าจะหาช่างภาพใหม่จากในนั้นด้วยเนี่ย.....

My Flickr

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

อัตราค่าบริการถ่ายภาพ....ที่คุณต้องการ

ประกาศ.....! ลูกค้าฟังทางนี้ อย่าบอกว่าราคาแพง ถ้ายังไม่เห็นพอร์ตงาน อย่าบอกว่าสวยเกินงาน เพราะ budget ไม่ถึง อย่าปล่อยให้ช่างภาพ(คนนี้)รอคอยด้วยใจคนึง อย่าหลอกให้เราซึ้งคิดว่าใช้แล้วจากไป....

ลูกค้ามีหลายประเภทมากมายครับ ทั้งมาหลอกถามราคา สนใจตัวงาน หรือกระทั่งคลิกไปเจอเลยลองโทรเล่นๆ วันนี้ผมจะมาชี้แจงเรื่องอัตราค่าบริการถ่ายภาพให้ฟังกันดีกว่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจของลูกค้าหลายท่านเลยทีเดียว เพราะไม่ใช่ว่าการถ่ายภาพทุกประเภทจะมีราคาเหมือนกันหมดซะที่ไหน เคยมีลูกค้าบางคนบอกว่าทำไมราคามีหลายเรตจัง ผมก็อยากถามเหมือนกันว่า พี่สั่งกะเพราไก่ไข่ดาว กับข้าวผัดรวมมิตร หรือสุกี้ทะเล ราคาเท่ากันรึเปล่าครับ อ้าวทำไมไม่เท่าล่ะ ทั้งที่ทำจากคนๆเดียวกัน(อันนี้แค่คิดนะครับ) หลักการก็เป็นเช่นเดียวกันแหละครับ งานแต่ละสไตล์แต่ละแบบก็มีความละเอียด มีความประณีต รูปแบบความยากง่ายแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่ที่ว่าตัวคุณน่ะแหละครับ เหมาะกับเรตราคาไหน ทั้งนี้ผมจะมาแนะนำชี้แจงให้ฟังในเรื่องของการเลือกช่างภาพถ่ายภาพนั้นต้องดูที่อะไรดีกว่าครับ

1. วางคอนเซ็ปต์งาน คุณต้องรู้ก่อนสิว่าจะถ่ายอะไร รูปแบบไหนจริงป่ะ หรือคุณจะเซิร์ชหาช่างภาพใน google ครั้นเห็นรายชื่อเรียงกันเป็นตับ รีบยกโทรศัพท์ไปถามว่า สวัสดีครับ ผมควรถ่ายอะไรดีครับก็คงไม่ใช่! เพราะฉะนั้นกำหนดคอนเซ็ปต์งานให้ชัดก่อนว่าจะถ่ายอะไรบ้าง ใช้รูปประมาณไหน แล้วก็จะเอาไปใช้งานอะไร เพราะถ้าเกิดช่างภาพคนนั้นอุปกรณ์ Canon 7D แต่จะโทรไปให้ถ่ายรูปลงเว็บ แล้วขอเรตราคาคอมแพคก็คงไม่ไหว หรือกลับกันจะเอางานไปแปะบนตึกแต่กลับโค้ดราคาแพงคุยเรียบร้อยวันจริงใช้แค่ Canon 400D ก็คงเกินไป เพราะฉะนั้นอย่าลืมนะครับอันนี้สำคัญ

2. หามือปืน มือปืนในที่นี้ไม่ใช่มือปืนจ้างไปยิงเมียน้อยใครที่ไหนนะครับ แต่ผมเปรียบเทียบช่างภาพอิสระหรือที่เรียกอีกชื่อว่าฟรีแลนซ์ตะหาก (Freelance Photographer) เซิร์ชหาเอาเลยครับอยากได้คนไหนที่คุณคิดว่าเหมาะสมกับงานของคุณ ดูงานของเค้าให้หมดให้ละเอียด แล้วก็พยายามหาพอร์ตงานของเค้าที่คิดว่าตรงกับคุณที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าช่างภาพที่ไม่ได้โชว์รูปงานที่ตรงกับคุณต้องการจะไม่เคยถ่ายหรือถ่ายสินค้าของคุณไม่ได้ อันนี้ต้องเข้าใจอย่างหนึ่งครับว่า งานต่างๆ จะให้มันเป๊ะๆ กับที่เราต้องการก็คงลำบาก ให้ดูแนวทางดีกว่าครับ เช่น ถ่ายโปรดักส์ก็ดูงานโปรดักส์เค้าว่าคัดแสงดีมั้ย ไล่โทนแสงสวยรึเปล่า หรือถ่ายคน ถ่ายportrait ก็ดูว่างานถ่ายคนของเค้าเป็นแบบไหน เราชอบหรือเปล่า ซึ่งอันนี้เป็นเรื่องลึกซึ้งพอควรครับ บอกไม่ได้ครับ(ไม่ได้กั๊ก แต่เป็นเรื่องรสนิยมล้วนๆ นะฮ้าฟฟฟ)

3. อัตราค่าบริการถ่ายภาพ อันนี้เป็นสิ่งที่คนไทยแทบจะเรียกได้ว่า เป็นปัจจัยหลักกว่าข้อแรกเลยก็ได้ครับ เพราะงานที่ผมผ่านมาเห็นจะเปรียบเทียบเรื่องราคาก่อนเลยอันดับแรก งานค่อยดูทีหลัง =*= (เป็นทฤษฎีที่แปลกแต่จริงในเมืองไทยครับ) ซึ่งในเรื่องนี้ต้องย้ำเลยว่า หาช่างภาพในราคาที่เราคิดว่าเหมาะสม แล้วคำว่าเหมาะสมจะต้องเปรียบเทียบกับอะไร ผมคงไม่มีสมการอะไรจะมายกเปรียบเทียบเป็นบัญญัติไตรยางค์ได้หรอกครับ แต่เกณฑ์คร่าวๆ ก็ต้องดูก่อนว่างบประมาณของคุณมีเท่าไหร่ แล้วถึงจะประเมินได้ถูก ซึ่งเรตช่างภาพบางคนจะคิดเป็นคิว คือ 8 ชม.ต่องาน(ส่วนใหญ่เป็นงานสตูดิโอ) หรือบางคนจะคิดเป็นงานก็คือเหมาทั้งโปรเจคท์ต่อวันไปเลย และก็คิดทีละครึ่งวันซึ่งแบบหลังนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็นงานพวกรับปริญญา กับงานแต่งงานครับ

4. กำหนดจ่ายตังค์ (อันนี้แถมครับ จากใจสมาคมช่างภาพทั้งหลาย) เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ลูกค้าทั้งหลายมักจะลืมพูดถึงกันว่าจะให้เงินเมื่อเสร็จงานทันที หรือว่าหลังจากจบงานนั้นกี่วัน ไอ้เราก็นิสัยคนไทยก็ไม่ค่อยกล้าพูดเรื่องนี้ด้วยสิ ครั้นพอพูดกับลูกค้าบางคนก็มองว่าเรางกตังค์ ทำเพื่อเงิน (อ่ะถูก! ใครจะทำฟรีครับคุณพี่) แต่อยากฝากลูกค้าทั้งหลายนิดนึงครับว่า ยังไงช่วยบอกกำหนดจ่ายเงินหน่อยนะครับ ไม่ใช่ให้เรารอเก้อชะเง้อคอแล้วเอียงคอรออีกจนเสียศูนย์กันเลยทีเดียว หรือชอบเงียบจนเราต้องถามเอง บางงานถ่ายเสร็จนึกว่าจะได้หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ก็ถือว่าช้าพอควรละ ที่ไหนได้เล่นปาเข้าไป 2 -3 เดือนทีเดียวครับ เหนื่อยใจไม่น้อย แต่อย่างหลังเข้าใจครับว่าระบบบริษัทใหญ่มักเป็นแบบนี้

ทั้งหมดนี้ก็เป็นรูปแบบวิธีคร่าวๆ ในการหาช่างภาพแล้วก็ผมคงไม่สามารถบอกอัตราค่าบริการถ่ายภาพให้ฟังได้ เพราะช่างภาพแต่ละคนก็มีเรตราคาไม่เหมือนกัน เอาเป็นว่ารักใครชอบใครก็เลือกเบอร์นั้นละกันครับ อ้าวแล้วนี่รอช้าทำไมครับ โทรมาหาเราสิครับ 087-100-1059!

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

Picture Style สำคัญจริงหนอ

หลังจากได้ถอย Canon 7D มาได้อาทิตย์นึงเต็มๆ และได้ทดลองอะไรหลายอย่างต้องบอกจริงๆครับว่า ของเค้าดีจริง วันนี้จะมาว่ากันเรื่องของ Picture Style ของ Canon 7D ครับ รูปบางทีมันก็อาจมีความซ้ำ ในรูปแบบต่างๆ สีสันน่าเบื่อ เราเลยต้องหาสีสันที่เราชอบ หรือถูกใจในการสร้ืางสรรค์ภาพของเรา วันนี้เลยเอา Picture Style จาก Canon มาฝากครับ

http://www.canon.co.jp/imaging/picturestyle/index.html

หรือถ้าอยากได้วิํธีติดตั้งง่ายๆ ก็ตามนี้เลยครับ

STEP 1 ... Ensure that EOS Utility Ver. 2.1 or later is installed.
- If installed: → proceed to Step 2.
- If not installed: → first install EOS Utility Ver. 2.1 or later.
emo05.gif มันใจว่าโปรแกรม EOS Utility Ver. 2.1 หรือ สูงกว่า ติดตั้งลงในเครื่อง คอมพ์ของคุณเรียบร้อยแล้ว
- ถ้าติดตั้งแล้ว ไป STEP 2 เลยครับ
- ถ้ายัง ให้ติดตั้ง EOS Utility Ver. 2.1 หรือ สูงกว่า ก่อน ...

STEP 2 ... Download your favorite Picture Style files to your computer.
emo05.gif ดาวน์โหลด ไฟล์ Picture Style ที่คุณต้องการ ลงมาเก็บไว้ที่เครื่องของคุณก่อน


STEP 3 ... Select the communication setting on your camera.
emo05.gif เลือก เมนู communication setting บนกล้องของคุณ


STEP 4 ... Start EOS Utility.
* The following use window examples from Windows Vista with EOS 40D for explanation, but basic operations are the same as in other Windows OSs or Mac OS X.
emo05.gif ในรูปตัวอย่าง ใช้รูปจาก วินโดว์ Vista และ กล้อง EOS 40d, แต่หน้าตาของตัวโปรแกรมก็จะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าคุณจะใช้ OS ตัวอื่นๆ หรือ Mac OS X.


หัวข้อย่อย อธิบายรูป


1. Connect the EOS DIGITAL camera to the personal computer via a USB cable, and start up EOS Utility. Click “Camera settings/Remote shooting” on the main window.
emo05.gif เชื่อมต่อกล้องเข้ากับ คอมพิวตอร์ ด้วย สายเคเบิ้ล USB .. และเริ่ม EOS Utility. คลิกที่ “Camera settings/Remote shooting” บนหน้าต่างหลักของโปรแกรม <ในกรอบแดงๆนะครับ>


2. Once the capture window opens, click the camera icon, and then click “Picture Style”.
* A different screen is displayed when connecting with other than EOS-1Ds Mark III / EOS-1D Mark III / EOS 40D.
emo05.gif คลิก ไอคอนรูปกล้อง , คลิก Picture Style”.
* อาจจะเห็นหน้าตาที่ ต่างออกไปจากกล้อง EOS-1Ds Mark III / EOS-1D Mark III / EOS 40D. เมื่อทำการเชื่อมต่อ ...

3. Click “Detail set”.
emo05.gif คลิก “Detail set”.


4. Select one of “User Def. 1~3” from the Picture Style setting.
* If a Picture Style file has already been registered under the same setting number, the existing setting will be overwritten.
emo05.gif เลือก 1 ใน 3 ของ “User Def. 1~3" จากเมนู Picture Style setting.
ถ้ามี Picture Style ที่คุณได้ ใช้งานไปก่อนหน้านี้แล้ว อันใหม่ที่คุณ เืลือกใช้งาน จะเข้าไปทับอันเดิม

** อันนี้ผมขออธิบายเพิ่มเติมนะครับ ใน พิกเจอสไตล์ ของ EOS 400d หรือ kissx นั้น จะมี ช่องว่าๆ อยู่ 3 ช่อง ให้เราเพิ่ม พิกเจอ สไตล์เข้าไปได้ 3 ช่องนั้นก็คือ User Def. 1~3 นั่นเองครับ หมายความว่า คุณเลือกใช้ได้แค่ 3 แบบ เท่านั้น ...


5. Click “Open”.
emo05.gif คลิก "เปิด"


6. Select a Picture Style file (extension .pf2).
emo05.gif เลือก Picture Style file ซึ่งจะมีนามสกุลเป็น . pf2 **Browse ไปตำแหน่งที่คุณดาวน์โหลดมาเซฟไว้ ในขั้นตอนแรกครับ


7. Click “Apply”.
* If “Close” is clicked instead, the settings file is not registered in the camera.
• Before applying the file, you can also adjust parameters such as [Sharpness], [Contrast], [Saturation], and [Color tone].
emo05.gif คลิก “Apply”.
หากกด ปิดหน้าต่าง ก่อนที่จะ กด Apply การตั้งต่านี้จะยังไม่ถูกใช้งานในกล้องของคุณ
ก่อนที่จะกด Apply คุณสามารถ ปรับแต่ง บางพารามิเตอร์ได้ เช่น
[Sharpness], ความคม
[Contrast] ความเปรียบต่างของสี
[Saturation] ความอิ่มของสี
[Color tone]. โทนสี ....... -*-


8. Clicking on “Close” completes registration to the camera.
emo05.gif คลิก “Close” เพื่อ สิ้นสุดการ เพิ่ม พิกเจอ สไตล์ลงในกล้องของคุณ ...


• If you have other downloaded Picture Style files, apply them to [User Def. 2] and [User Def. 3] by repeating Steps 3 to 8.
emo05.gif เมื่อคุณดาวน์โหลด พิกเจอ สไตล์อื่นๆมาเพิ่มเติม ให้ใส่ลงใน ใน ช่อง [User Def. 2] and [User Def. 3] และทำซ้ำ STEP 3 ถึง 8 ที่ผมได้อธิบายไว้แล้วครับ


ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก http://www.fotoinfomag.com/webboard/index.php?showtopic=344 ครับ

วันหน้าจะมาสอนทำ picture style นะครับ ตอนนี้ต้องฝากบ้านใหม่อีกแห่งด้วยนะครับ

http://www.facebook.com/pages/Athurlouise-รับถ่ายภาพ

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันนี้คุณมีกล้องหรือยัง

รับถ่ายภาพ บริการถ่ายภาพ เชื่อว่าหลายคนเปิดเว็บท่องโลกอินเตอร์เนตต้องเคยผ่านตากับคำสองนี้แน่นอน ซึ่งปัจจุบันนี้คำว่าช่างภาพดูช่างเป็นคำที่ดูดีเหลือเกิน ใครๆ ก็อยากเป็นกัน แล้วคำว่าช่างภาพเค้าวัดกันที่ตรงไหนล่ะ ราชบัณฑิตยสถานผมก็ไม่เคยไปเปิดดูแต่เอาจากประสบการณ์ของผมที่ผ่านการถ่ายภาพมา.......ไม่นานได้บอกผมว่า ถ้าใครบอกคุณว่าเค้าเป็นช่างภาพคุณก็เชื่อๆ เค้าหน่อยละกัน ยิ่งถ้ามีกล้องเสป็กเทพคู่กับเลนส์จากสรวงสวรรค์รับรองครับ นี่มันท่านเมพขิงๆ วงการภาพเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นนิยามผมใครว่าไงก็ว่าตามนั้นอย่าไปขัดเค้าเลยครับปล่อยไปเถิดเค้ามีความสุข แต่อุปกรณ์เทพๆ นี่มันได้สร้างจิตวิญญาณลงมาสู่ภาพถ่ายหรือเปล่า? จิตวิญญาณย่อมน้อมนำภาพที่สื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกได้ดีครับ(แม้จะเป็นแค่คอมแพคก็ตาม)

ฉะนั้นเวลาตามงานต่างๆ ที่ผมไป เห็นกล้องเสป็กเทพเทวดาวิจิตราผมก็ย่อมรู้สึกและรับรู้ได้ครับ รับรู้ได้ถึงความมีฐานะ แต่วงการถ่ายภาพนั้นอุปกรณ์เป็นเพียงสิ่งถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกจินตนาการตามผู้ใช้พวกมัน และระดับชนชั้นของอุปกรณ์ก็ย่อมตอบสนองได้ดียิ่งขึ้นตามระดับฐานะของผู้ใช้เอง อย่าไปยึดติดกับกล้องราคาแพงๆมากนักเลยครับ ต้องถามตัวเราว่างานภาพของเรามันจำเป็นกับกล้องระดับไหน ก็ใช้ให้คุ้มค่าดีกว่าครับ นอกจากเงินเหลือจากซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ แล้วอยากซื้อสดกล้องบ้างก็จัดหนักครับ ตามสบายไม่ขอขัด ผมอยากให้เราใส่ใจกับงานแต่ละชิ้นที่เราทำมันมากกว่าทุ่มเทไปกับการไล่ตามอุปกรณ์แล้วก็เปลี่ยนมันแทบทุกอาทิตย์ ทุกวันนี้เวลาเข้าเว็บไหน บางทีก็อึดอัดนะครับ เห็นแต่คุยกันเรื่องเลนส์ตัวนี้คม ไม่คม ชัดไม่ชัด แพงไม่แพง ผมเชื่อว่าคงไม่มีใครจะซูมภาพ 100% กันเท่าไหร่หรอกครับ วัดแสงให้ดี จัดองค์ประกอบให้สวย โปรเซสงามๆ แค่นี้ผมว่าก็เวิร์กแล้ว อยากสนับสนุนให้เพื่อนๆ ที่งบน้อย(เหมือนผม) ใช้อุปกรณ์ที่มีให้มันเต็มที่ก่อนดีกว่าครับ แล้วท่านจะภูมิใจกับภาพสวยๆ ที่มาจากความตั้งใจถ่ายทอดมันออกมาไม่ใช่เน้นแต่ตัววัตถุมากไปจนกลายเป็นคนคลั่งวัตถุ

แต่ผมขอเน้นย้ำนะครับ เรื่องนี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นเพียงความเห็นผมล้วนๆ โดยไม่ได้เป็นนอมินีมีใครอยู่ข้างหลังบอกให้ผมนั่งพิมพ์ตาม ซึ่งสุดแล้วแต่วิจารณญาณของทุกท่านครับ

วันนี้คุณใช้อุปกรณ์ในมือคุ้มค่าหรือยัง!