วันนี้เราจะมาพูดถึงการถ่ายภาพแบบเบสิคง่ายๆ ให้ภาพมีความคมชัด สวยงามกันครับ หลายท่านเลยที่คิดว่ารูปที่เราถ่ายมาแล้วมันดูดี สวยงามไปหมดทดสอบดูจากในจอ LCD หลังกล้องแล้วก็เห็นว่าผ่าน แต่พอมาเปิดจอคอมฯ หรือไปอัดภาพมากลับเห็นว่ามันไม่ได้คมชัดหรือสวยงามอย่างที่เห็น ซึ่งผมมีเทคนิคง่ายๆ มาแนะนำเพื่อทุกท่านจะได้มีภาพสวยๆ ไม่ผิดหวังกันครับ
1. กลั้นหายใจก่อนลั่นไก เคยเห็นในหนังเวลาตำรวจเล็งผู้ร้ายมั้ยครับ ก่อนลั่นไกปลิดชีพคู่ต่อสู้ ต้องมีสมาธิและใช้ความอดกลั้นพอควร เห็นมั้ยครับแค่นี้ก็บ่งบอกอยู่นัยๆแล้วว่า ต้องใช้ความอดกลั้น....หายใจ (=*=) จริงๆแล้วการกลั้นหายใจก่อนกดชัตเตอร์ทำให้ภาพเกิดความนิ่งครับ ภาพจะสั่นสาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากการที่กล้องมีขนาดเล็กและเบาเกินไป เช่นพวกกล้องคอมแพค หรือกล้องราคาระดับทั่วไป ยิ่งกล้องหนักๆ จะยิ่งมีราคาแพง (สังเกตุสิครับช่างภาพยิ่งใช้ของแพงยิ่งบึกบึนทั้งนั้น) แต่มันทำให้เกิดความนิ่งขึ้นด้วยครับ และอีกสาเหตุก็เป็นเรื่องของสปีดชัตเตอร์ แต่แค่เรากลั้นหายใจก็ช่วยให้ภาพนิ่งได้มากพอสมควรแล้วครับ
2. อย่าลืมน้องโฟกัส บางคนถ่ายรูปแล้วไม่ชัดส่วนหนึ่งก็มาจากการที่โฟกัสผิดจุดครับ ซึ่งกล้องแต่ละรุ่นจะมีจุดโฟกัสที่ไม่เหมือนกัน และไม่เท่ากันครับ ลองพยายามฝึกใช้จุดโฟกัสตำแหน่งต่างๆ ให้ถนัด เพื่อจะได้ทำงานได้คล่องและรวดเร็ว เพื่ออนาคตสดใสวันข้างหน้าครับ
3. ชัตเตอร์กดติดวิญญาณ แค่เราปรับสปีดชัตเตอร์ให้ต่ำภาพคนสวยๆ ก็อาจดูเหมือนวิญญาณพเนจรตามภาพที่ส่งกันมาดูในเนตว่อนแล้วครับ เรื่องชัตเตอร์ดูเหมือนเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็รู้กัน แต่บางคนที่ยังไม่คล่องกับการใช้กล้อง DSLR ก็อาจลืมทฤษฎีนี้ไปก็ได้ครับ เพิ่ม ISO หรือเพิ่มความไวชัตเตอร์ให้สูงขึ้นทำให้ภาพนิ่งขึ้นแน่นอนแต่ต้องไม่ลืมกลั้นหายใจก่อนถ่ายรูปด้วยนะครับ อ้อ....เกือบลืมไป ระวังเรื่องการเพิ่ม ISO ด้วยนะครับเพราะการเพิ่มแต่ละสต๊อปย่อมมีผลกับเกรนภาพหรือเรียกว่า Noise นั่นเอง ยิ่ง ISO ยิ่งสูงก็ยิ่งเพิ่ม Noise แหม รักพี่เสียดายน้องจริงๆ ดังนั้น ต้องคำนึงถึงภาพที่จะออกมาให้ดีก่อนคิดจะใช้วิธีการปรับ ISO นะครับ
4. จงยืนหยัดด้วยขาของเจ้า ใช่ครับต้องยืนและหยัดด้วยขา แต่ขาในที่นี้ไม่ใช่ขาสองข้างของเรา แต่ควรเป็นขาตั้งกล้องของเราครับ(ยืมมาก็ไม่ดีครับ เกิดพังขึ้นมาเดี๋ยวต้องชดใช้แล้วจะเสียเพื่อนเสียฝูงกันเปล่า ๆ) แน่นอนว่าขาตั้งกล้องไม่ได้ทำให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ทำให้งานเราสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นครับ แต่ควรเลือกใช้ขนาดของขาให้เหมาะสมกับกล้องนะครับ ไม่ใช่กล้องกับเลนส์มีน้ำหนัก 7 กิโล แต่ใช้ขา Joby ขนาดเล็ก ผมว่าคงทำงานไปลุ้นไปน่าดูครับยิ่งต้องทิ้งกล้องแล้วเดินห่างออกมาใช้รีโมท ถ้ามันลำบากขนาดนั้นก็อย่าไปใช้มันเลยครับ วานพี่ข้างๆ กดให้แล้วกัน
5. หรี่มันเข้าไป รูรับแสงน่ะไม่ใช่ตา การปรับรูรับแสงให้แคบลงก็สามารถช่วยให้ภาพเกิดความชัดลึกขึ้นอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ต้องแลกกับการเสียสปีดชัตเตอร์ไป ไอ้ครั้นจะเพิ่ม ISO ก็ต้องแลกกับ Noise ที่ได้มา สุดท้ายก็เข้าทฤษฎีได้อย่างเสียอย่างจริงๆ แต่ดูๆไปก็ต้องพึ่งขาตั้งกล้องอยู่ดี งั้นกลับไปเอาที่บ้านก่อนดีกว่า เอ๊ะ แล้วทำไมไม่แบกมันไปด้วยกันแต่แรกเลยล่ะฟะเนี่ย
6. การแสดงแสงสีไม่ต้องมีเสียง เพราะงานนี้เราไม่ใช้วีดีโอ ไม่ใช้สลิงและสตั๊นท์ หลักการมองเห็นของตามนุษย์และกล้องก็เหมือนกันเรื่องหนึ่งซึ่งคงไม่มีใครกล้าเถียงว่า ถ้าไม่มีแสงก็ไม่เกิดภาพให้เราเห็น(อ๊ะอ๊ะ หรือคุณจะเถียง) เพราะฉะนั้นการเล่นแสงหรือการหามุมที่แสงเข้าด้านข้างย่อมทำให้ภาพมีมิติที่กว่าการถ่ายรูปที่แสงมาตรงๆ ด้านหน้าแบบเป็นแน่แท้ นี่เรากำลังพูดถึงเรื่องของมิติของภาพนะครับ แต่ถ้าเป็นความงามบางทีแสงจากด้านหน้าหรือด้านข้างก็ให้อารมณ์ไม่เหมือนกันครับ
7. Contrast ที่ไม่ใช่ Contra ไม่ต้องกดบนๆล่างๆ ซ้ายขวา ซ้ายขวา เซเล็ก สตาร์ทเพื่อสร้างสูตรอมตะ แต่การหาความเปรียบต่างของภาพ ก็ช่วยให้ภาพของคุณดูน่าดึงดูดมากกว่าภาพแบบเรียบๆ ทั่วไป ไม่เชื่อลองกรีดข้อมือตัวเองแล้วถ่ายรูปดูสิครับ กับอีกอันเป็นรูปมือเฉยๆ คุณคิดว่าอะไรน่าดึงดูดกว่ากัน เหอเหอ
8. จงช่างสังเกตุและจับผิดให้ถูกทาง จับผิดในที่นี้คือการหารายละเอียดของวัตถุ เพราะวัตถุที่มีรายละเอียดเยอะมักสร้างจุดเด่นได้ดีกว่า ภาพทั่วไปที่ไม่ค่อยมีรายละเอียด เปรียบเสมือนเรามองไประหว่างวัดแห่งหนึ่งที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไกลๆ กับรูปตลาดนัดจตุจักรที่มีคนพลุกพล่าน คุณคิดว่าอะไรจะน่าสนใจกว่ากัน นั่นสิ อันไหนผมยังไม่รู้เลย?
9. ฟ้าหลังฝนย่อมสดใส แน่นอนครับ เพราะฉะนั้นอย่าได้ไปถ่ายรูปในช่วงพายุมาฝนกระหน่ำ เพราะกล้องคุณจะเปียก ใช่ครับคุณอ่านไม่ผิด(นอกจากคุณหุ้มถุงก๊อปแก๊ป) ซึ่งผมว่าคุณคงไม่บ้าไปถ่ายตอนนั้นแน่ แต่จะบอกว่าก่อนฝนจะมา แม้ฟ้าสดใสแต่ลมกรรโชกแรง ความกดอากาศต่ำ คุณก็อย่าเพิ่งถ่ายช่วงมีลมเลยครับ รอให้ลมหยุดพัดก็จะเพิ่มภาพที่คมชัดให้คุณด้วยครับ
10. โรบิน”ฮู้ด” วีรบุรุษผู้ยากไร้ หากคุณเอาเลนส์ไปถ่ายท่ามกลางแสงแดดหรือไฟหลายๆ ดวงมากมายอยู่ข้างเลนส์ข้างกล้อง คุณไม่ควรลืมเค้า โรบิน”ฮู้ด” วีรบุรุษผู้ช่วยเหลือภาพของคุณไม่ให้ไร้คุณภาพ ฮู้ดที่ติดหน้าเลนส์จำเป็นมากครับท่ามกลางสภาพแสงเหล่านี้ เพราะถ้าคุณลืมติดคุณก็จะเห็นได้ทันทีว่าเลนส์แฟลร์เป็นยังไง แต่บางคนก็ชอบให้เกิดแฟลร์ๆ นะครับ มีความเป็นอาร์ตผสมดี ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมครับ ความแฟลร์ก็จะแตกต่างออกไปตามลักษณะประเภทของแต่ละราคาของเลนส์ ซึ่งเลนส์ราคาแพงย่อมควบคุมความแฟลร์ได้ดีกว่า ถ้ายังไม่รู้จักกับแฟลร์ก็ลองถอดฮู้ดออกแล้วไปยืนถ่ายย้อนแสงแดดซักช่วง 5 โมงก็จะเข้าใจได้ไม่ยากครับ
เมื่อนับข้อดีวิธีทำให้ภาพคมชัดได้ 10 ข้อแล้ว ก็ลงมือปฏิบัติได้แล้วครับ ขอให้โชคดีครับ
หารูปประกอบยากจริงๆ เข้าไปดูในนี้เองละกันเนอะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น